วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Hong Kong ตอน7 [[ตอนจบ]]

ตอนที่7 "จะได้กลับบ้านกัน ไหมวะเนี้ย"

กำหนดการของพวกเราคือ 5 วัน เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าทำไมเล่าแค่4วัน วันที่4 เราจะไม่ขอเล่านะคะ เนื่องจากว่า วันนั้น เป็นวันช็อปของฝาก(ซื้อ)ค่ะ วันทั้งวัน หมดไปกับ รองเท้าและ คสอ. ช่างเป็น ผญ.ที่รักสวยรักงามจริงๆ ฮ่าๆๆ ที่หมดทั้งวันนี่คือเลือกไม่ถูกค่ะ อะไรก็ไม่เคยใช้  ไม่รู้จักทั้งนั้นเลย เราเป็น ผญ. ที่มีความเป็น ญ สูงมาก แหะๆ 

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอยู่ฮ่องกงแล้ว ไฟล์ทกลับของพวกเราคือ 19:30น. ค่ะ ตอนเช้า ยายเลยพาพวกเรามากินติ่มซำค่ะ เราบอกยายไว้ว่า มาทั้งที ขอกินติ่มซำ ของแท้สักหน่อยเหอะ เช้าก่อนกลับ ยายเลยพาพวกเรามากินติ่มซำกันค่ะ

เมนูมาเลยค่ะ จีนจ้า สำเภาทองกันเลยทีเดียว อ่านไม่ออกค่ะ ยายบอกเดี๋ยวเราค่อยสั่งกับเค้าเอาแล้วกันนะ

อย่างแรกเลยค่ะ "ห่ามโสยโกะ" เป็นข้าวเหนียว ข้างในมีไส้ค่ะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ แต่ยายบอกเป็นเมนูแนะนำเลยนะ

อันนี้ คือ "เสี่ยวหลงเปา" ยายบอกว่าคนไทยมาจะต้องมากินอันนี้ค่ะ เพราะดังมาก เป็นซาลาเปาที่มีน้ำซุปอยู่ด้านในค่ะ พอกันแล้วน้ำซุปจะไหลออกมา น้ำซุปหวานกลมกล่อมมากเลยค่ะ แล้วก็จะมีใส่กุ้งอยู่ด้านใน อันนี้จัดว่าเด็ดจริงๆค่ะ ชอบ

อันนี้ เป็นข้าวห่อใบบัวค่ะ ชื่อจีนไม่ทราบค่ะ เพราะเรียกไม่ถูก ฮ่าๆๆๆ ข้าวจะเหนียวๆ แล้วก็จะมีหมูแดงอยู่ด้านใน อร่อยดีค่ะ 




หลังจากกินติ่มซำกันเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินเที่ยวรอบๆค่ะ ก่อนกลับ เก็บภาพตลาดดอกไม้มาฝาก 




ภาพนายแบบไม่เกี่ยวกับดอกไม้ใดๆเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ หลังจาก ใกล้บ่าย3แล้ว เราก็กลับที่พักค่ะ เพื่อเตรียมเก็บของกลับ 

เราลอดใต้ถนนมาเพื่อมารอรถไป สนามบินค่ะ รถไปสนามบินรอนานเหมือนกันนะเนี้ย เป็นรถเมล์สองชั้นเหมือนเดินค่ะ คนไม่ค่อยเยอะเราเลยได้นั่งหน้าสุด อย่างน้อยก็ได้ชมวิวก่อนกลับเนอะ 

อันนี้เป็น เทมเปิ้ล สตรีทค่ะ เราไม่ได้มาเที่ยวเพราะมาไม่ถูก ฮ่าๆๆๆ ครั้งหน้า เราจะมาตามเก็บที่ท่องเที่ยวค่ะ แล้วจะเก็บภาพสวยๆมาฝากนะคะ วิวระหว่างทางไม่ค่อยงดงามเท่าไหร่ในตัวเมือง มันดูรกไปหมด แต่พอออกมานอกๆ เริ่มสวยค่ะ


หลังจากมาถึงสนามบินเราก็ไปที่บอร์ดกันค่ะ เพื่อหาสถานที่เช็คอิน พร้อมกับโทรบอก ป้า น้า ยาย ว่าเราถึง สนามบินเรียบร้อยปลอดภัยค่ะ เราต้องไปเช็คอินที่อาคาร 2 ค่ะ เดินไปง่ายมากไม่มีงง เพราะมีป้ายบอกทางตลอดทางเลยค่ะ พอเราเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเดินเที่ยวกันค่ะ ประมาณ6โมง เราเริ่มจะมองหาเกทกันค่ะ เกท 69 เฮ้ย มันอยู่ตรงไหนวะ เดินกันจนทั่ว อาคารแล้วก็ยังหาไม่เจอ เริ่มเครียดค่ะ แล้วก็ไปเจอกลุ่มคนไทยค่ะ ก็เลยเข้าไปถามเค้า ว่าพี่รู้หรือเปล่าคะ ว่าเกท 69 อยู่ ตรงไหน พี่เค้าก็บอกว่าไม่ทราบ เอาซิครับ เครียดครับ กลับไม่ได้กลับบ้าน เดินวนไปวนมา เหมือนคนบ้าหอบฟางกัน อยู่2 คน จน ตัดสินใจไปถาม พนง ที่ยืนยิ้ม หน้าแป้นแล้น อยู่ตรงนั้น แต่กว่าจะถามได้ 

เรา: มึงถามดิ
นายต๋อง: มึงดิ 
เรา: กุถามเยอะแล้วนะ มึงไม่ถามเลย
นายต๋อง: เออ ก็ได้วะ , แล้วต้องถามว่าไงวะ 
((พวกเรานี่คิดคำถามกันประมาณ3นาที พร้อมกับถามอากู๋ ไปด้วย))
นายต๋องก็เดินไปถาม พนง ค่ะ ปรากฎว่า เค้าฟังไม่รู้เรื่องค่ะ เราเลยเดินเข้าไป พูดง่ายๆไปเลย ซิกตี้นาย เกท เค้าก็บอกทางเรามาค่ะ ฟังออกไม่หมดหรอกนะคะ แต่จับใจความได้ว่า อาคารหนึ่ง ชั้น7 เราก็ขอบคุณเค้าไป แล้วเราก็เดินกลับไปอาคาร1ค่ะ ขึ้นลิฟท์ เพื่อไปชั้น7 เจอ อิมมิเกรชั่นแล้ว แทบจะร้องไห้  
        หลังจากเจออิมมิเกรชั่น เราก็ไปต่อแถวเพื่อเข้าสแกนร่างกาย เราผ่านมาได้สบายเลยค่ะ แต่นายต๋องซิค่ะ กระเป๋าดัง จนท. ก็เรียกนางไปถามว่า แชมพูหรอ นางก็ทำหน้าเอ๋อๆ พร้อมกับเรียกเราไป จนท.เค้าก็เปิดกระเป๋านางแล้วก็เจอ คลีนซิ่งน้ำแร่ ที่นางซื้อไปฝากแฟนนางค่ะ แล้ว จนท. เค้าก็บอกว่า อันนี้ขึ้นเครื่องไม่ได้นะ ต้องการไหม? ((คำถามพวกนี้เรานี่เดาเอานะคะฮ่าๆๆๆ)) เพื่อนเราด้วยความที่นางไม่รู้ เราก็ไม่รู้ ก็พยักหน้า เออ ออ ห่อหมกไปงั้น แล้วนางก็บอกว่า งั้นคุณก็ต้องไปโหลดกระเป๋านะ นายต๋อง นางก็พยักหน้า อ่า อ่า เออ เอิ่ม ด้วยความงง งวย แล้ว จนท.ก็ จะพานายต๋องออกไปค่ะ นางก็เลยตะโกนเรียกเราไปด้วย จนท. ก็พูดว่า ทูเก็ตเตอร์ นายต๋องนางก็บอกว่า ทูเก็ตเตอร์  เราก็ยัง งง อยู่เลย ทูเก็ตเตอร์อะไรวะ ฮ่าๆๆ แล้วเราก็โดนลากออกมาด้านนอก แล้ว จนท. ก็พูดเหมือนว่าให้พวกเราไปโหลดกระเป๋านั้นแหระค่ะ พอออกจาก ด่านตรวจด้วยประตูหลังแล้ว นายต๋อง นางก็มาถามเราค่ะ ว่าจนท.ให้เราออกมาทำไม โถ่วๆๆๆๆๆ แล้วที่คุณมึงคุยกับ จนท.ตั้งนานนี่ คือ คุณมึงไม่รู้อะไรเลยหรอค่ะ ณ จุดนั้น คือ ขำเป็นบ้าเลยค่ะ ความรู้เรื่องคือความไม่รู้้เรื่อง จริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ เราก็เลยบอกนางไปว่า จนท.ให้นางไปโหลดกระเป๋า ค่ะ แล้วเราก็บอกให้นางเลือกว่า นางจะโหลดกระเป๋า หรือจะทิ้ง ถึงที่นี้จะถูกกว่าก็จริง แต่ ที่ไทยก็มีขายนะ นางคิดหนักค่ะ เราก็เลยบอกนางไปว่า เราเคยอ่านรีวิวมาว่า ถ้าซื้อ นน กระเป๋า ที่ สนามบิน จะแพงกว่าซื้้อมาจาก หน้าเว็บนะ นางก็คิดหนักค่ะ เราก็เลยบอกว่า ไม่ต้องคิดแล้ว ทิ้งไปเหอะ เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี นางก็เออๆๆ เสียดายวะ เราก็เลยให้นางไว้อาลัย เจ้าคลีนซิ่ง สัก3วิ แล้วนางจะหยิบใส่ถังขยะ เราบอกว่าไม่ต้องหรอก เสียดาย วางไว้แบบนี้แหระ เผื่อใครอยากได้ เค้าจะได้เอาไป ได้ทำบุญด้วยนะมึง นางก็เออ ออ ห่อหมก ตามเรา อย่างว่าง่าย 

ทีนี้เราก็ไปที่อิมมิเกรชั่นอีกครั้งค่ะ แต่เราเปลี่ยนช่องการตรวจค่ะ เพราะว่า เขิลคุณ จนท. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
หลังจากนั้น เราก็ไปที่ ตม. เพื่อจะไปนั่งรอที่เกท จนท. ก็บอกให้เราถอดแว่นซิ เราก็โอเค แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดี ฮ่าๆๆๆ แล้วเราก็ไปหาอะไรกินกันค่ะ 

ดูหน้านายแบบเราซินะ นางยังเสียดายไม่หายเลย ฮ่าๆๆๆ ขำนางอ่า ถือเป็นประสบการณ์ ที่ดีค่ะ สำหรับการเดินทางครั้งแรกของเรา แต่ครั้งต่อไปของเราไม่รู้ว่าจะโชคดีเหมือนครั้งนี้หรือเปล่านะ แต่สิ่งที่ได้จากการเดินทางในครั้งนี้ มันทำให้เรากล้าที่จะผเชิญหน้ากับ ชาวต่างชาติ เริ่มมีความกล้าที่จะพูดออกมาบ้างแล้ว การเดินทางทำให้เราเติบโตขึ้น อันนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ การได้เปิดโลกกว้าง เห็นอะไรใหม่ๆ เราคิดว่า มันทำให้เราโลภค่ะ มันทำให้เราอยากจะเห็น ที่โน่น ที่นี่ ไปหมด ก็คืออยากเที่ยวนั้นแหละค่ะ ((แต่ตังไม่มีก็ได้แต่โลภอยู่ในใจ ฮ่าๆๆๆ)) 



สุดท้ายนี้ เราอยากจะบอกว่า ภาษาไม่ได้ มันไม่ใช่ข้ออ้างในการออกไปเปิดโลกนะคะ ถ้าได้ลองสักครั้ง แล้วคุณจะลืมข้ออ้างข้อนี้ไปเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ 



ปล. อันนี้คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยในการเดินทาง และติดต่อสื่อสารค่ะ


ซิมสำหรับใช้ที่ฮ่องกงค่ะ เราซื้อมาจาก : http://www.siminter.net/ ในเว็บไซต์บอกวิธีการสมัครและตั้งค่า รายละเอียดครบถ้วนเลยค่ะ ส่วนตัวเราใส่กับเครื่อง iPhone สามารถใช้ได้เลยค่ะ ไม่ต้องตั้งค่า ความแรงเน็ต ก็พอใช้ได้ค่ะ ไม่ถึงกับช้ามาก แต่ก็ไม่ได้เร็ว สปี๊ช สปราช อะไรค่ะ เรากับเพื่อแชร์เน็ตกันค่ะ เพราะหารค่าซิมกับ พวกเราทุกอย่าง ต้องหารค่ะ เพื่อเป็นการประหยัด งบประมาณเพราะพวกเรางบน้อยมาก


อันนี้เป็นแผนที่ค่ะ เราซื้อมาจาก ซีเอ็ด ที่ซื้อเพราะ มันราคาถูกกว่าหนังสือ แถมยังเป็นภาษาไทย ทั้งหมดเลยด้วย แนะนำ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว สำคัญไว้อย่างครบถ้วนเลยค่ะ










วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

Hong Kong ตอน6

ตอนที่6 "Disney Land....Hong Kong"


นี่คือ น่าตา บัตร(ฟรี) สำหรับเข้าดีสนีย์แลนด์ค่ะ สามารถเล่นได้ทุกชนิดค่ะ น้าเราให้ เป็น ของขวัญปีใหม่ค่ะ ลาภลอยสุดๆเลย เพราะได้ข่าวว่าค่าเข้าหลายตังมากมาย

ก่อนไป สวนสนุก ยายพาเรามาทานอาหารก่อนไปค่ะ อาหารเช้าที่คนที่นี้นิยมคือ นี้เลยค่ะ ไซ้ต้อสี่ เป็นขนมปังชุบไข่บางๆแล้วสีเหลืองๆตรงกลางนั้นคือเนยค่ะ ราดด้วยน้ำผึ้งค่ะ เฮ้ย คือแบบ อร่อยมากเลยค่ะ ไม่อมน้ำมันสักนิด คือ อร่อยมาก ชอบสุดๆ


ยายกลัวหลานไม่อิ่มค่ะ เลยสั่งสเต็กมาให้ค่ะ เอิ่ม ที่นี่เค้ากินสเต็ก โดยที่ใส่แค่เกลือค่ะ เพราะเราไม่เห็นซอสเลย ก็อร่อยดีนะคะ เค็มๆ อร่อยดี แล้วก็ทานนี้เลยค่ะ ชาร้อน

ด้วยความที่คิดว่าเหมือนชานมบ้านเรา ได้ปุ๊บ ซดเลยค่ะ หนาว แทบพรวดออกมาเลยค่ะ เพราะขมปี๋เลยค่ะ เค้าให้มาใส่น้ำตาลข้างนอก เราใส่น้ำตาลเยอะมาก ใส่เท่าไหร่ๆๆ ก็ไม่หายขมค่ะ ใส่จนกลายเป็น เปรี้ยวๆขมๆ สรุป ไม่หมดอีกแล้ว เป็นคนที่กินยากจริงๆ ฮ่า  แต่ไม่ไหวจริงๆค่ะ

หลังจากทานอาหารเสร็จ เรานั่งรถแวน จากบ้านยาย ไปลง มงก๊กค่ะ (คนที่ฮ่องกงเค้าเรียก หว่องเกาะ)

แล้วเราก็ขึ้นรถไฟจากสถานีมงก๊ก สายสีแดงไปลง สถานีไลคิง แล้วเปลีี่ยนเป็นขึ้นสายสีเหลือง ไปลง สถานีซันนี่เบย์ แล้วก็นั่งสายสีชมพูซึ่ง เป็นสายเฉพาะสำหรับไปดิสนีย์แลนด์ค่ะ เห็นรถไฟ ตื่นเต้นมากเลยค่ะ กระจกเป็นมิกกี้เมาส์ด้วย น่ารักมากเลยค่ะ


รถไฟสวยมากเลยค่ะ วิวระหว่างทางก็สวยค่ะ ถึงสถานีแล้วค่ะ ว๊าวๆๆๆๆ

ไปถึงก็ โทรหาน้าค่ะ เค้ามารอส่งเราเข้า ดิสนีย์ เค้ากลัวบัตรมีปัญหาค่ะ ไปถึง บัตรเราผ่านได้ สบายมาก พอมาถึง บัตรเพื่อนค่ะ เกิดปัญหาค่ะ แล้วเค้าก็พูดว่า ???!!!!!////??? พูดว่าอะไรค่ะ คือฟังไม่ออก ทั้งๆที่เค้าพูดภาษาอังกฤษนะ โห้ย เศร้าใจจัง เรียนตั้งแต่อนุบาล จน มหาลัยแล้ว สกิลภาษาเรายัง เลเวล1 อยู่เอง น้าเราก็เลย มาถามค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่า บัตรมีปัญหาค่ะ ให้รอแปปหนึ่ง พอเปลี่ยนบัตรมาเรียบร้อยแล้ว ก็ลุยกันเลย 

เฮ้ยยยย ตื่นเต้นวะ คนแน่นเลย เพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ เด็กๆเยอะมาก มีขบวนพาเลซ ตอนเช้าด้วยค่ะ เป็นขบวนเปิดปราสาทค่ะ 

หลังจากเดินผ่านเมืองมา เราก็จะเจอปราสาทค่ะ เราเข้าไปในปราสาทกันดีกว่า 


พาเจ้าชายมาส่งคืนปราสาทค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เดินเข้ามา พวกเรากลายเป็นเด็กโข่งเลยค่ะ เพราะ เอลซ่า ตัวน้อยๆ เดินกันให้ว่อนเลยค่ะ มองไปทางไหนก็เจอแต่เอลซ่าๆๆๆๆ เพราะเอลซ่ากำลังดังค่ะ (Frozen) คนเยอะทุกเครื่องเล่นเลยค่ะ  เราจะมาขี่ช้างบินกันค่ะ  


ของเล่นทุกอย่าง เด็กสามารถเล่นได้หมดเลยค่ะ เครื่องเล่น มัน สนุก สวยงาม ตระการตา ทุกชนิดเลยค่ะ ชอบมากเลย ถ้ามีโอกาส(ฟรี)อีก ก็อยากจะไปอีก เราชอบมากเลยค่ะ 

เราเก็บภาพ แอนนากับเอลซ่ามาฝากค่ะ ฮ่าๆๆ จริงๆเราไปต่อคิวรับบัตรดูเรื่องนี้ด้วย แต่เล่นเครื่องเล่นเพลินไปหน่อย เลยลืมค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

วินนี่เดอะพู จะให้เรานั่งรถรางค่ะ แล้วก็จะพาเราไปดูพูกับเพื่อนๆกัน อิริยาบทต่างๆ มีเสียงด้วยนะคะ เหมือนดูหนัง 4D เลยค่ะ ชอบมากเลย 

อันนี้เป็นเหมือนตะลุยอวกาศค่ะ โหย มันมาก เพราะมันมืด เร็ว แรง เพื่อนเรานี่แหกปาก สนุกยอดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ นึกแล้วขำ 

อันนี้เป็นซุ้ม ขายของค่ะ จะมีอยู่ทุกดินแดน ของน่ารักๆๆ อยากได้ทั้งนั้นเลย แอบเสียใจ เรางบน้อยมาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


เราได้ไปดูการแสดง ไลออนคิงด้วยค่ะ สนุก ตระการตามากเลยค่ะ ร้องเพลง ติดหูเลย ชอบสุดๆเลย ไม่ได้แค่โชว์อย่างเดียวนะคะ เพราะว่า เค้ายังให้เราทุกคนร่วมทำกิจกรรมกับพวกเค้าด้วยค่ะ 


ล่องเรือ ในลุ่มน้ำ อเมซอนก็จะมีไกด์บรรยายค่ะ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เค้าก็จะเล่าไปให้เราผจญภัยไปด้วย เอฟเฟค สมจริงสุดเลยค่ะ  ปลื้มปริ่ม ฮ่าๆๆๆ ขอลงรูปไปแค่บางส่วนนะคะ มันเยอะมาก ภาพนี้ จิ๊กมาจาก นายแบบค่ะ






เล่นกันจนบ่ายแก่ๆ เราก็ไปหาอะไรกินกันค่ะ แต่ว่า กินไม่ลงเลยค่ะ เพราะของแต่ละอย่างที่นี้แพงมาก ข้าวจาน เป็นร้อยเหรียญ เราเลยซื้อ ป็อปคอน กินค่ะ อันเดียวพอ กินกัน2คน มันกล่อง ละ 50 เหรียญ 200กว่าบาท แทบจะเลียกล่องกันเลยทีเดียวค่ะ แล้วนี่ก็คือของที่ช่วยประทังชีวิตเราค่ะ ชามะนาวขวดหนึ่ง กินกัน2คน แล้วก็ ฮอทดอก คนละชิ้นค่ะ เพราะเห็นว่าถูกสุดในนี้แล้วค่ะ ((ฮอทดอกอร่อยมากเลยค่ะ อยากกินอีกมาก ถ้าไม่ติดว่ามันแพง))




พวกเราอยู่กันจนถึงมืดเลยค่ะ เพราะ วันนี้มีการแสดงพุไฟ นั่งดูกันเพลินเลยค่ะ สวยมากเลย อย่างกับดินแดนแห่งความฝันเลยค่ะ ไปแล้วไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว



ขอจบด้วยภาพนายแบบสุดหล่อของเราค่ะ ของที่ถือเยอะแยะเลยนี่ คือนางซื้อไปฝากแฟนนางค่ะ นางน่ารักเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ((ตอนหน้า ตอนจบแล้วนะคะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ ดูซิว่า ก่อนกลับพวกเราจะเจอเรื่องอะไรกันบ้าง ฮ่าๆๆๆๆ  ไปก่อนนะคะ แม่ว่าแล้ว ))